《鬼谷子》กุ่ยกู๋จื่อ 12 บท (5)

บทที่ห้า เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ
ใครก็ตามที่คอยประเมินสติปัญญาและความสามารถของผู้อื่น วัตถุประสงค์ก็เพื่อดึงดูดผู้มีความรู้ความสามารถจากที่ต่างๆ ทั้งใกล้และไกล การสร้างแรงผลักดันเพื่อให้เข้าใจกฎการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้นนั้น ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกลุ่ม แยกแยะคำวิจารณ์ด้านต่างๆ ที่ถูกและผิด รับรู้และเข้าใจข้อเสนอต่างๆ ทั้งจากภายในและภายนอก ต้องรู้ปริมาณของสิ่งที่มีและขาด ต้องแน่ใจในความปลอดภัยของแผนการ รู้ว่าต้องเข้าใกล้หรือออกห่างจากใคร จากนั้นพิจารณาถึงความสัมพันธ์เหล่านี้ หากยังมีข้อสงสัยหรือไม่ชัดเจนก็ต้องศึกษาตรวจสอบให้แน่ชัดเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตน อาศัยคำพูดของคู่ต่อสู้ จากนั้นเข้าควมคุมคู่ต่อสู้ด้วยการชมเชยเอาใจ วิธีนี้ถือเป็นการโน้มน้าวอย่างหนึ่ง จุดเด่นของมันแตกต่างกันไป สำหรับคู่ต่อสู้ที่ใช้วิธีนี้แล้วก็ยังสามารถเข้าควบคุมได้ ก็อาจจะต้องใช้การข่มขู่หรือจูงใจก่อน จากนั้นค่อยดำเนินการลองใจพวกเขาซ้ำๆ หรืออาจจะลองใจพวกเขาซ้ำไปมาก่อน จากนั้นค่อยเข้าจู่โจมและทำลายพวกเขา มีคนเข้าใจว่า การลองใจซ้ำๆ ก็คือการทำลายฝ่ายตรงข้าม และก็มีคนเข้าใจว่า การทำลายคู่ต่อสู้ก็คือการลองใจคู่ต่อสู้ซ้ำๆ
หากต้องการให้ความสำคัญกับใครบางคน ก็อาจจะต้องให้ทรัพย์สินเงินทองเป็นรางวัลก่อน เพื่อลองใจพวกเขา หรืออาจจะสร้างสถานการณ์มาดึงดูดพวกเขา หรือไม่ก็อาศัยการค้นหาช่องโหว่มาควบคุมฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องใช้กลวิธีแบบ "การสกัดกั้น"
หากจะนำวิธีการ "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" เผยแพร่ให้โลกรู้ จำเป็นต้องพิจารณาถึงกลอุบายและความสามารถของคน ต้องสังเกตความเจริญและความเสื่อมของโลก ต้องเข้าใจลักษณะของภูมิประเทศอย่างลึกซึ้ง และต้องรู้ว่าประชากรประเทศร่ำรวยมากน้อยเพียงใด ส่วนด้านความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าเมืองน้อยใหญ่นั้น ต้องพิจารณาถึงความใกล้ชิดของกันและกัน ต้องรู้ว่าแท้จริงแล้วใครสนิทสนมกับใคร ใครเป็นมิตรกับใคร และใครเป็นศัตรูกับใคร ต้องพิจารณาความคิดและความปรารถนาของฝ่ายตรงข้ามอย่างละเอียด ต้องรู้ว่าพวกเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร จากนั้นเริ่มการโน้มน้าวโดยมุ่งประเด็นไปในเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญ และใช้วิธี "飞(สื่อถึงการเอาชนะใจ)" หลอกล่อฝ่ายตรงข้าม สุดท้ายจึงใช้วิธี "钳(แปลว่า หนีบไว้, จำกัด)" เข้าควบคุมฝ่ายตรงข้าม
หากนำวิธี "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" ไปใช้กับคนอื่น ก็ต้องพิจารณาถึงสติปัญญาและความสามารถของฝ่ายตรงข้ามและประเมินศักยภาพที่แท้จริงของเขา จากนั้นใช้สิ่งนี้ในการรับมือกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้การเจรจานั้นประสบผลสำเร็จ ใช้ความเป็นมิตรสร้างสัมพันธไมตรี นี้ก็คือความแยบยลของแผน "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ"
หากใช้วิธี "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" กับคนอื่น ควรจะใช้คำพูดเพราะๆ ไปหว่านล้อมให้ฝ่ายตรงข้ามเผยตัวตนที่แท้จริง เพื่อใช้การพิจารณาคำพูดโน้มน้าวของเขา เช่นนี้แล้วก็จะสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อไม่ให้พลาดช่วงสำคัญไป
ใครก็ตามที่คอยประเมินสติปัญญาและความสามารถของผู้อื่น วัตถุประสงค์ก็เพื่อดึงดูดผู้มีความรู้ความสามารถจากที่ต่างๆ ทั้งใกล้และไกล การสร้างแรงผลักดันเพื่อให้เข้าใจกฎการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของสิ่งต่างๆ มากยิ่งขึ้นนั้น ก่อนอื่นจะต้องพิจารณาความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกลุ่ม แยกแยะคำวิจารณ์ด้านต่างๆ ที่ถูกและผิด รับรู้และเข้าใจข้อเสนอต่างๆ ทั้งจากภายในและภายนอก ต้องรู้ปริมาณของสิ่งที่มีและขาด ต้องแน่ใจในความปลอดภัยของแผนการ รู้ว่าต้องเข้าใกล้หรือออกห่างจากใคร จากนั้นพิจารณาถึงความสัมพันธ์เหล่านี้ หากยังมีข้อสงสัยหรือไม่ชัดเจนก็ต้องศึกษาตรวจสอบให้แน่ชัดเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตน อาศัยคำพูดของคู่ต่อสู้ จากนั้นเข้าควมคุมคู่ต่อสู้ด้วยการชมเชยเอาใจ วิธีนี้ถือเป็นการโน้มน้าวอย่างหนึ่ง จุดเด่นของมันแตกต่างกันไป สำหรับคู่ต่อสู้ที่ใช้วิธีนี้แล้วก็ยังสามารถเข้าควบคุมได้ ก็อาจจะต้องใช้การข่มขู่หรือจูงใจก่อน จากนั้นค่อยดำเนินการลองใจพวกเขาซ้ำๆ หรืออาจจะลองใจพวกเขาซ้ำไปมาก่อน จากนั้นค่อยเข้าจู่โจมและทำลายพวกเขา มีคนเข้าใจว่า การลองใจซ้ำๆ ก็คือการทำลายฝ่ายตรงข้าม และก็มีคนเข้าใจว่า การทำลายคู่ต่อสู้ก็คือการลองใจคู่ต่อสู้ซ้ำๆ
หากต้องการให้ความสำคัญกับใครบางคน ก็อาจจะต้องให้ทรัพย์สินเงินทองเป็นรางวัลก่อน เพื่อลองใจพวกเขา หรืออาจจะสร้างสถานการณ์มาดึงดูดพวกเขา หรือไม่ก็อาศัยการค้นหาช่องโหว่มาควบคุมฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องใช้กลวิธีแบบ "การสกัดกั้น"
หากจะนำวิธีการ "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" เผยแพร่ให้โลกรู้ จำเป็นต้องพิจารณาถึงกลอุบายและความสามารถของคน ต้องสังเกตความเจริญและความเสื่อมของโลก ต้องเข้าใจลักษณะของภูมิประเทศอย่างลึกซึ้ง และต้องรู้ว่าประชากรประเทศร่ำรวยมากน้อยเพียงใด ส่วนด้านความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าเมืองน้อยใหญ่นั้น ต้องพิจารณาถึงความใกล้ชิดของกันและกัน ต้องรู้ว่าแท้จริงแล้วใครสนิทสนมกับใคร ใครเป็นมิตรกับใคร และใครเป็นศัตรูกับใคร ต้องพิจารณาความคิดและความปรารถนาของฝ่ายตรงข้ามอย่างละเอียด ต้องรู้ว่าพวกเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร จากนั้นเริ่มการโน้มน้าวโดยมุ่งประเด็นไปในเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญ และใช้วิธี "飞(สื่อถึงการเอาชนะใจ)" หลอกล่อฝ่ายตรงข้าม สุดท้ายจึงใช้วิธี "钳(แปลว่า หนีบไว้, จำกัด)" เข้าควบคุมฝ่ายตรงข้าม
หากนำวิธี "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" ไปใช้กับคนอื่น ก็ต้องพิจารณาถึงสติปัญญาและความสามารถของฝ่ายตรงข้ามและประเมินศักยภาพที่แท้จริงของเขา จากนั้นใช้สิ่งนี้ในการรับมือกับฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้การเจรจานั้นประสบผลสำเร็จ ใช้ความเป็นมิตรสร้างสัมพันธไมตรี นี้ก็คือความแยบยลของแผน "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ"
หากใช้วิธี "เข้าควบคุมโดยการเอาชนะใจ" กับคนอื่น ควรจะใช้คำพูดเพราะๆ ไปหว่านล้อมให้ฝ่ายตรงข้ามเผยตัวตนที่แท้จริง เพื่อใช้การพิจารณาคำพูดโน้มน้าวของเขา เช่นนี้แล้วก็จะสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อไม่ให้พลาดช่วงสำคัญไป
Comments
Post a Comment