วิวัฒนาการภาพยนตร์จีน ตอนที่ 6
- จากภาพยนตร์สู่อุตสาหกรรม(2002-ปัจจุบัน)
ในประวัติศาสตร์การปฏิวัติภาพยนตร์จีนนั้น ปีค.ศ.2002 ถือเป็นปีที่มีความหมายอีกปีหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2001 สำนักงาน State Administration of Radio, Film and Television (SARFT) ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมออกหนังสือมา 5 ฉบับ เนื้อหาประกอบด้วย การอนุมัติแผ่น ระเบียบการขึ้นทะเบียน รวมถึงคุณสมบัติของบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในด้านต่างๆ การออกมาตรการเช่นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีความเป็นระบบระเบียบมากขึ้น
เนื่องด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศจีนที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อุตสาหกรรมต่างๆเริ่มเข้าที่เข้าทาง ประสบการณ์มากมายจากการสร้างภาพยนตร์ประเภทต่างๆ และโอกาสที่เปิดให้ภาพยนตร์จีนได้พัฒนา ทำให้ภาพยนตร์ในชื่อภาษาไทยเรื่องพยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก《卧虎藏龙》 ที่กำกับโดยอั้งลี่(李安)ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและนอกประเทศจนได้รับรางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ในปีค.ศ.2002 ภาพยนตร์เรื่องฮีโร่《英雄》ที่กำกับโดยจางอี้โหมว(张艺谋) เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สัญชาติจีนที่เข้าฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์กว่า 2000 แห่งทั่วอเมริกา และติดอันดับภาพยนตร์ทำเงินของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ในปีค.ศ.2004 ก็มีภาพยนตร์เรื่องจอมใจบ้านมีดบิน《十面埋伏》 ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องของจางอี้โหมว(张艺谋)ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม
ปี 2006 ภาพยนตร์เรื่องศึกโค่นบัลลังก์วังทอง《满城尽带黄金甲》 ที่กำกับโดยจางอี้โหมว(张艺谋)ทำเงินรายได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ไปกว่า 250 ล้านหยวน จากการเข้าฉายเพียง 20 วัน ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างสถิติทำรายได้สูงสุดในจีนของปี 2006 ซึ่งเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าถึงโศกนาฏกรรมของครอบครัวๆ หนึ่ง โดยมีฉากหลังเป็นพระราชวังอันโอ่อ่าใหญ่โต ส่วนหนังแนวเดียวกันของผู้กำกับเฟิงเสี่ยวกัง(冯小刚) อย่างศึกสะท้านภพ สยบบังลังก์มังกร《夜宴》ก็ทำรายได้มาเป็นอันดับ 2 ด้วยตัวเลขรายได้ที่ค่อนข้างทิ้งห่างคือ 130 ล้านหยวน โดยรายได้รวมทั้งหมดของภาพยนตร์จีนที่เข้าฉายในจีนแผ่นดินของปี 2006 นั้นสูงถึง 2.62 พันล้านหยวน ซึ่งมากกว่าปี 2005 ถึง 620 ล้านหยวนเลยทีเดียว
ในปีค.ศ.2007 ภาพยนตร์อื้อฉาวเรื่องเล่ห์ราคะ《色戒》ได้ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือผู้กำกับอังลี่(李安)เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายอิงจากประวัติศาสตร์ของจางอ้ายหลิง(张爱玲)ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีฉากร่วมรักที่ล่อแหลมมากมายหลายฉาก แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิซครั้งที่ 64 และในปีค.ศ. 2008 ภาพยนตร์มหากาพย์สงครามเรื่องสามก๊กตอนโจโฉแตก《赤壁》ทัพเรือ ของผู้กำกับจอห์น วู(吳宇森) ทำรายได้ในประเทศจีนไปกว่า 1,600 ล้านบาทจากภาคแรก และภาคสองที่เข้าฉายเพียง 5 วันก็ทำรายได้ไปกว่า 500 ล้านบาท
และในปลายปีค.ศ.2009 เป็นปีที่สถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ 60 ปี จึงมีการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องมังกรสร้างชาติ《建国大业》 ขึ้นโดย 3 ผู้กำกับมากฝีมืออย่างจอห์น วู (吳宇森)เฉินข่ายเกอ(陈凯歌)และปีเตอร์ ชาน ภาพยนตร์เล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์การสร้างชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนช่วงปี ค.ศ.1945 – ค.ศ.1949 ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีดาราชั้นแนวหน้าของจีนที่มีชื่อเสียงรวมแสดงถึง170 ชีวิต และสามารถทำรายได้ได้มากถึง 410 ล้านหยวนหรือประมาณ 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้ต้นปี 2010 ยังมีภาพยนตร์เรื่องขงจื้อ《孔子》 ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่การครบรอบวันเกิดของขงจื๊อปีที่ 2,560 และที่สำคัญเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นทางรัฐบาลจีนได้สั่งระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง“Avatar” ของเจมส์ คาเมรอน ในโรง 2 มิติทั่วประเทศจีน ประชาชนชาวจีนต่างเชื่อกันว่าการกระทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะเปิดทางให้กับภาพยนตร์ในประเทศเรื่องขงจื้อ แต่ก็มีบางคนที่เชื่อว่าแท้จริงแล้วรัฐบาลจีนเกรงว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ที่เล่าถึงการต่อสู้ระหว่างชาวนาวีชนพื้นเมืองแห่งดาวแพนดอร่ากับมนุษย์ผู้ที่ต้องการทรัพยากรธรรมชาติของดาวดวงนั้น อาจจะกระตุ้นให้เกิดปัญหาการต่อต้านของชนกลุ่มน้อยหรือประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์และได้รับผลกระทบต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยจากนโยบายต่างๆ ของรัฐ
ในประวัติศาสตร์การปฏิวัติภาพยนตร์จีนนั้น ปีค.ศ.2002 ถือเป็นปีที่มีความหมายอีกปีหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2001 สำนักงาน State Administration of Radio, Film and Television (SARFT) ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมออกหนังสือมา 5 ฉบับ เนื้อหาประกอบด้วย การอนุมัติแผ่น ระเบียบการขึ้นทะเบียน รวมถึงคุณสมบัติของบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในด้านต่างๆ การออกมาตรการเช่นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีความเป็นระบบระเบียบมากขึ้น
เนื่องด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศจีนที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อุตสาหกรรมต่างๆเริ่มเข้าที่เข้าทาง ประสบการณ์มากมายจากการสร้างภาพยนตร์ประเภทต่างๆ และโอกาสที่เปิดให้ภาพยนตร์จีนได้พัฒนา ทำให้ภาพยนตร์ในชื่อภาษาไทยเรื่องพยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก《卧虎藏龙》 ที่กำกับโดยอั้งลี่(李安)ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและนอกประเทศจนได้รับรางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ในปีค.ศ.2002 ภาพยนตร์เรื่องฮีโร่《英雄》ที่กำกับโดยจางอี้โหมว(张艺谋) เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สัญชาติจีนที่เข้าฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์กว่า 2000 แห่งทั่วอเมริกา และติดอันดับภาพยนตร์ทำเงินของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย นอกจากนี้ในปีค.ศ.2004 ก็มีภาพยนตร์เรื่องจอมใจบ้านมีดบิน《十面埋伏》 ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องของจางอี้โหมว(张艺谋)ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม
ปี 2006 ภาพยนตร์เรื่องศึกโค่นบัลลังก์วังทอง《满城尽带黄金甲》 ที่กำกับโดยจางอี้โหมว(张艺谋)ทำเงินรายได้ในจีนแผ่นดินใหญ่ไปกว่า 250 ล้านหยวน จากการเข้าฉายเพียง 20 วัน ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างสถิติทำรายได้สูงสุดในจีนของปี 2006 ซึ่งเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าถึงโศกนาฏกรรมของครอบครัวๆ หนึ่ง โดยมีฉากหลังเป็นพระราชวังอันโอ่อ่าใหญ่โต ส่วนหนังแนวเดียวกันของผู้กำกับเฟิงเสี่ยวกัง(冯小刚) อย่างศึกสะท้านภพ สยบบังลังก์มังกร《夜宴》ก็ทำรายได้มาเป็นอันดับ 2 ด้วยตัวเลขรายได้ที่ค่อนข้างทิ้งห่างคือ 130 ล้านหยวน โดยรายได้รวมทั้งหมดของภาพยนตร์จีนที่เข้าฉายในจีนแผ่นดินของปี 2006 นั้นสูงถึง 2.62 พันล้านหยวน ซึ่งมากกว่าปี 2005 ถึง 620 ล้านหยวนเลยทีเดียว
ในปีค.ศ.2007 ภาพยนตร์อื้อฉาวเรื่องเล่ห์ราคะ《色戒》ได้ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือผู้กำกับอังลี่(李安)เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายอิงจากประวัติศาสตร์ของจางอ้ายหลิง(张爱玲)ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีฉากร่วมรักที่ล่อแหลมมากมายหลายฉาก แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิซครั้งที่ 64 และในปีค.ศ. 2008 ภาพยนตร์มหากาพย์สงครามเรื่องสามก๊กตอนโจโฉแตก《赤壁》ทัพเรือ ของผู้กำกับจอห์น วู(吳宇森) ทำรายได้ในประเทศจีนไปกว่า 1,600 ล้านบาทจากภาคแรก และภาคสองที่เข้าฉายเพียง 5 วันก็ทำรายได้ไปกว่า 500 ล้านบาท
และในปลายปีค.ศ.2009 เป็นปีที่สถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ 60 ปี จึงมีการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องมังกรสร้างชาติ《建国大业》 ขึ้นโดย 3 ผู้กำกับมากฝีมืออย่างจอห์น วู (吳宇森)เฉินข่ายเกอ(陈凯歌)และปีเตอร์ ชาน ภาพยนตร์เล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์การสร้างชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนช่วงปี ค.ศ.1945 – ค.ศ.1949 ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีดาราชั้นแนวหน้าของจีนที่มีชื่อเสียงรวมแสดงถึง170 ชีวิต และสามารถทำรายได้ได้มากถึง 410 ล้านหยวนหรือประมาณ 2,100 ล้านบาท นอกจากนี้ต้นปี 2010 ยังมีภาพยนตร์เรื่องขงจื้อ《孔子》 ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่การครบรอบวันเกิดของขงจื๊อปีที่ 2,560 และที่สำคัญเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นทางรัฐบาลจีนได้สั่งระงับการฉายภาพยนตร์เรื่อง“Avatar” ของเจมส์ คาเมรอน ในโรง 2 มิติทั่วประเทศจีน ประชาชนชาวจีนต่างเชื่อกันว่าการกระทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะเปิดทางให้กับภาพยนตร์ในประเทศเรื่องขงจื้อ แต่ก็มีบางคนที่เชื่อว่าแท้จริงแล้วรัฐบาลจีนเกรงว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ที่เล่าถึงการต่อสู้ระหว่างชาวนาวีชนพื้นเมืองแห่งดาวแพนดอร่ากับมนุษย์ผู้ที่ต้องการทรัพยากรธรรมชาติของดาวดวงนั้น อาจจะกระตุ้นให้เกิดปัญหาการต่อต้านของชนกลุ่มน้อยหรือประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์และได้รับผลกระทบต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยจากนโยบายต่างๆ ของรัฐ
Comments
Post a Comment