《鬼谷子》กุ่ยกู๋จื่อ 12 บท (10)



บทที่สิบ การวางแผน
ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นคนวางแผนการ ล้วนต้องปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้ จะต้องทำความเข้าใจกับสาเหตุที่มาที่ไป และศึกษาสภาพความเป็นจริง และใช้การศึกษานี้มากำหนด "คนสามระดับ" ซึ่งก็คือ ระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง หากคนทั้งสามระดับต่างมองทะลุซึ่งกันและกัน ก็จะสามารถคิดแผนการที่คาดไม่ถึง และแผนการที่คาดไม่ถึงนี้ก็เอาชนะได้ทุกสิ่ง เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน  ดังนั้นคนประเทศเจิ้งจึงต้องพกเข็มทิศติดตัวทุกครั้งที่เข้าป่า เพื่อจะได้ไม่หลงทาง  การประเมินความรู้ ความสามารถ และความรู้สึกนึกคิด ก็เปรียบเสมือนกับการใช้เข็มทิศ  ดังนั้นใครก็ตามที่สนิทสนมและมีความคิดความรู้สึกตรงกัน จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ใครก็ตามที่มีความต้องการเหมือนกัน แต่ความสัมพันธ์ห่างเหิน สุดท้ายก็จะมีเพียงบางกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์  ใครก็ตามที่มีความคิดชั่วร้ายเหมือนกัน ทั้งยังสนิทสนมกันและกัน ก็จะต้องเสียหายไปด้วยกัน  ใครก็ตามที่มีความคิดชั่วร้ายเหมือนกัน แต่ความสัมพันธ์ห่างเหิน สุดท้ายจะมีคนบางกลุ่มต้องเสียผลประโยขน์ก่อนอย่างแน่นอน ดังนั้น หากจะนำผลประโยชน์มาให้กันและกัน ก็ต้องมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด หากต่างฝ่ายต่างสร้างความเสียหาย ก็ต้องตีตัวออกห่าง  เหล่านี่เป็นเรื่องที่กำหนดไว้อยู่แล้ว และเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมต้องพิจารณาถึงความเหมือนและความแตกต่าง ไม่ว่าอะไรที่กี่ยวข้องกับเรืองนี้ล้วนมีหลักการเดียวกัน ดังนั้น การที่กำแพงพังทลายโดยมากเกิดจากรอยร้าว ต้นไม้ถูกโค่นก็เพราะเกิดปัญหา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของสิ่งหนึ่งนั้น ล้วนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตัวของมันเอง และสิ่งต่างๆ ก็เกิดขึ้นจากยุทธวิธี ยุทธวิธีเกิดขึ้นจากการวางแผน การวางแผนเกิดขึ้นจากการเจรจา การเจรจาเกิดจากการโน้มน้าว การโน้มน้าวเกิดจากการเดินหน้า การเดินหน้าเกืดขึ้นจากการถอยหลัง การถอยหลังเกิดขึ้นจากการควบคุม ด้วยเหตุนี้สิ่งต่างๆ จึงต้องถูกควบคุม  เห็นได้ว่าหลักการของทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะซ้ำไปมากี่ครั้งมันก็ถูกกำหนดไว้แล้ว
คนที่ยึดมั่นในหลักคุณธรรมย่อมไม่ใส่ใจกับทรัพย์สินนอกกาย ดังนั้นใช้เงินทองมาหลอกล่อพวกเขาไม่ได้ แต่กลับทำให้พวกเขาบริจาคทรัพย์สินได้ นักรบที่กล้าหาญย่อมไม่เกรงกลัวความลำบาก ดังนั้นจะใช้ภัยอันตรายมาข่มขู่พวกเขาไม่ได้ แต่ทำให้พวกเขาช่วยป้องกันอันตรายได้ คนที่มีปัญญา รู้เรื่องขนบธรรมเนียมเป็นอย่างดี มีเหตุมีผล ไม่สามารถแกล้งทำตัวน่าเชื่อถือแล้วไปหลอกพวกเขาได้ แต่กลับสามารถอธิบายเหตุและผล ให้พวกเขาสร้างผลงานได้ นี่ก็คือผู้มีคุณธรรม นักรบผู้กล้า และผู้มีปัญญาที่ถูกขนานนามว่าเป็น "三才(ผู้มีความสามารถทั้งสาม)" ด้วยเหตุนี้ คนโง่ง่ายต่อการถูกหลอก คนที่ไม่รักดีง่ายต่อการถูกข่มขู่ คนที่ละโมบโลภมากง่ายต่อการถูกหลอกล่อ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ จากสภาพการณ์โดยรวม ดังนั้นความแข็งแกร่งเกิดจากการสะสมของความอ่อนแอ ความมีเกิดจากการสะสมของความไม่มี นี่เป็นเพราะ "หลักการ" นั้นได้ถูกนำไปใช้แล้ว
ดังนั้นสำหรับคนที่ภายนอกเป็นมิตรแต่ภายในกลับห่างเหินนั้น จะต้องเริ่มการโน้มน้าวจากภายในก่อน  สำหรับคนที่ภายในเป็นมิตรแต่ภายนอกกลับดูห่างเหิน จะต้องเริ่มโน้มน้าวจากภายนอกก่อน ด้วยเหตุนี้ ต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาการโน้มน้าวจากข้อสงสัยของฝ่ายตรงข้าม ต้องพิจารณาว่าการโน้มน้าวนั้นเหมาะสมหรือไม่โดยดูจากท่าทางการแสดงออกของฝ่ายตรงข้าม ต้องสรุปประเด็นสำคัญของการโน้มน้าวจากคำพูดของฝ่ายตรงข้าม ต้องพิชิตฝ่ายตรงข้ามในเวลาที่เหมาะสมโดยดูจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพการณ์ ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียจากภัยอันตรายที่ฝ่ายตรงข้ามก่อขึ้น ต้องคิดหาวิธีป้องกันโดยดูจากภัยอันตรายที่ฝ่ายตรงข้ามอาจจะเป็นผู้ก่อขึ้น หลังจากประเมินแล้วก็ต้องมีการข่มขู่ หลังจากทำให้วุ่นวายแล้วก็ต้องทำให้สับสน นี้แหละที่เรียกว่า "กลอุบาย" ส่วนการใช้กลอุบายนั้น ถ้าจะเปิดเผยสุ้เก็บเป็นความลับดีกว่า ถ้าจะเก็บเป็นความลับสู้จัดตั้งพรรคขึ้นมาดีกว่า เพราะภายในพรรคที่ตั้งขึ้นมาจะไม่มีการแตกแยก กลยุทธ์มาตรฐานเทียบไม่ได้กับกลยุทธ์ที่คาดคิดไม่ถึง กลยุทธ์ที่คาดไม่ถึงนั้นเมื่อลงมือปฎิบัติจะไม่มีครั้งที่ไม่ชนะ ดังนั้นเวลาโน้มน้าวกษัตริย์นั้น จะต้องเจรจากลยุทธ์นี้กับเขา เหตุผลเดียวกัน เวลาที่โน้มน้าวพวกขุนนาง จำเป็นต้องเจรจาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว 
แม้ว่าจะเป็นคนกันเอง แต่การพูดอะไรที่เป็นผลประโยชน์ต่อคนนอก ก็ย่อมต้องถูกทำตัวห่างเหิน หากเป็นคนนอก แต่กลับรู้เรื่องภายในมากเกินไปก็จะเป็นอันตราย อย่าใช้สิ่งที่ผู้อื่นไม่อยากได้มาบีบบังคับให้ผู้อื่นยอมรับ อย่านำเรื่องที่ผู้อื่นไม่เข้าใจไปใช้สั่งสอนผู้อื่น หากฝ่ายตรงข้ามมีความชอบบางอย่าง ก็ต้องเลียนแบบวิธีการผู้อื่นเพื่อสนองความสนใจของเขา หากฝ่ายตรงข้ามไม่ชอบอะไร ก็ต้องหลีกเลี่ยง  เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจ ดังนั้นต้องวางแผนอย่างลับๆ และเข้ายึดอย่างเปิดเผย ปล่อยให้คนที่เราอยากจะกำจัดทำตัวตามสบายไปก่อน เมื่อสบโอกาสค่อยกำจัดทิ้ง คนที่ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ไม่แสดงความรู้สึกออกทางสีหน้า เป็นคนที่หนักแน่นกับความรู้สึก ก็สามารถมอบหมายการใหญ่ที่สำคัญให้เขาได้  สำหรับคนที่เราเข้าใจเขาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วนั้น ก็ให้ความสำคัญกับเขาได้  สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักตัวตนของเขามากพอ คนที่ฉลาดย่อมไม่คิดที่จะให้ความสำคัญ  ดังนั้นการทำกิจกรรมทางการเมือง สิ่งสำคัญคือการควบคุมคน ห้ามให้คนอื่นควบคุมเราได้เด็ดขาด คนที่ควบคุมคนอื่นได้ถือเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจอยู่ในมือ คนที่ถูกผู้อื่นควบคุม คือผู้ถูกปกครองที่ต้องทำตามคำสั่งทุกอย่าง ดังนั้น หลักการในการใช้กลยุทธ์ของนักปราชญ์คือ ซ่อนไว้ไม่เปิดเผย  แต่หลักการในการใช้กลยุทธ์ของคนโง่คือ การป่าวประกาศ คนที่มีปัญญาง่ายที่จะประสบความสำเร็จ คนที่ไร้ปัญญายากที่จะประสบความสำเร็จ จากตรงนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อประเทศล่มสลายแล้วก็ยากที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ เมื่อประเทศเกิดความวุ่นวายก็ยากที่จะทำให้สงบลงได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่ฝืนธรรมชาติและการใช้สติปัญญา  ปัญญานั้นเอาไว้ใช้ในสถานที่ที่คนไม่รู้ สถานที่ที่คนมองไม่เห็น หลังจากที่ได้ใช้สติปัญญาและความสามารถแล้ว หากพิสูจน์ให้เห็นว่าใช้ได้ ก็ต้องเลือกหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อลงมือปฎิบัติ นี่คือการทำเพื่อตนเอง หากพบว่าใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อลงมือปฎิบัติเช่นกัน นี่คือการทำเพื่อคนอื่น ดังนั้นหลักการทั้งหลายที่กษัตริย์สมัยโบราณส่งเสริมนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "หยิน" คำโบราณกล่าวไว้ว่า "ธรรมชาตของฟ้าและดินนั้น อยู่ที่ความสูงและความลึก"  หลักการปกครองของนักปราชญ์อยู่ที่การปิดบังไม่เปิดเผย ไม่ได้เน้นเรื่องความเมตตา ความมีเหตุผล และความซื่อสัตย์เพียงอย่างเดียว  แต่เป็นการรักษาหลักความเป็นธรรมเอาไว้เท่านั้น หากกระจ่างแจ้งในเนื้อแท้ของหลักการ ก็สามารถไปเจรจากับผู้อื่นได้ หากทั้งสองคุยกันได้ถูกคอ ก็จะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ในตอนนี้และระยะยาวต่อไปได้

Comments

  1. Casino site & registration bonus codes - Lucky Club
    No deposit bonuses and promo codes in the Casino UK will match your first deposit into your bonus account when signing up today! In this Minimum Deposit: £10Welcome Offer: Welcome Bonus up to luckyclub.live £50

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

《鬼谷子》กุ่ยกู๋จื่อ 12 บท (1)

บทบาทของตัวละครในการแสดงงิ้ว

งิ้วหรืออุปรากรจีนคืออะไร