สีสันบนใบหน้าและผม


ความโดดเด่นของการแสดงงิ้วนั้น นอกจากลีลาการร่ายรำและการเคลื่อนไหวของผู้แสดงแล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตลอดจนการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นสีสันของการแต่งหน้าที่แตกต่างกันไป จะบ่งบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครได้ส่วนสีสันของการแต่งหน้าที่ต่างกันจะบ่งบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครเป็นอย่างดีโดยสีต่างๆนั้นจะมีความหมายแฝงอยู่ เช่น

สีแดง แสดงถึงความจงรักภักดี
สีม่วง แสดงถึงความเป็นคนหนักแน่น มีใจเด็ดเดี่ยว
สีดำ แสดงถึงความเป็นคนป่าเถื่อน
สีน้ำเงินและสีเขียว แสดงถึงความเป็นคนใจร้าย มุทะลุ
สีเหลือง แสดงถึงความกล้าหาญ แน่วแน่
สีขาว มันแสดงถึงความเป็นคนเจ้าเล่ห์
สีชมพูขาว แสดงถึงความเป็นคนใจอำมหิตและชั่วร้ายมาก
สีอิฐหรือแดงเข้ม แสดงถึงผู้สูงอายุ
สีทองและสีเงิน มักเป็นสีที่ใช้แต่งหน้าเทพ นักพรตหรือปีศาจที่มีเวทมนตร์คาถา
สีเขียวอ่อน ใช้แต่งหน้าพวกตัวปีศาจ


ขั้นตอนการแต่งหน้า


การแต่งหน้า ก่อนอื่นต้องลงสีขาวและกดหน้าให้เป็นแผ่นราบ หลังจากนั้นจึงดึงคิ้ว จมูก ปากขึ้นมาใบหน้าที่จะแต่งงิ้วได้สวยนั้น ต้องเป็น “หน้ารูปไข่” เพราะจะสามารถเห็นตรงส่วนเรียวของคางได้ชัดเจน
-แก้ม ก็ต้องทาสีแดงให้เหมือนลูกท้อ
-จมูก ทำให้เหมือนลูกมะปราง นักแสดงงิ้วทั้งชายและหญิงจะเอาสีแดงป้ายตัดสันจมูก เพื่อเน้นให้เห็นสันชัดเจนยิ่งขึ้น
-คิ้ว ตัวนางจะวาดเป็นต้นหลิว เก็บเรียวพร้อมรับสายลม จะได้สะบัดอารมณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่ตัวพระจะวาดเป็นรูปกระบี่ทื่อๆ
-ดวงตา ทั้งคู่จะวาดเป็นตาหงส์ที่เฉียบคมเหมือนกัน
-ปาก ซึ่งในอดีตนั้น นักแสดงงิ้วจะใช้สีกุหลาบวาดปากเป็นรูปเชอรี่ แต่ปัจจุบันได้หันมานิยมวาดเป็นปากกระจับแทนแล้ว


การจัดทรงผมของนักแสดง

เริ่มจากด้านหน้าของหน้าผาก บริเวณที่เป็นลูกผม จะใช้ผ้าขาวบางที่นำไปย้อมเป็นสีดำมาโพกไว้ เพื่อเป็นที่ยึดของเครื่องแต่งผม สำหรับตัวนางจะมีการติดลูกผมปลอม โดยวัสดุที่ใช้ทาแทนกาวจะเป็นกากไม้ที่เรียกว่า ‘หล่าเต๊า’ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อนำไปแช่น้ำแล้ว จะเหนียวเหมือนกาวแป้งเปียก และที่ไม่ใช้กาวแป้งเปียก เพราะเมื่อแห้งแล้วจะแข็งทื่อ และไม่เงางามเหมือนหล่าเต๊า

ตัวนางส่วนใหญ่จะมีปิ่นปัก หรือไม่ก็มีดอกไม้ประดับ เพื่อแสดงถึงความร่ำรวย หากตัวนางกำลังตกทุกข์ เครื่องประดับบนหัวจะเป็นสีเงิน แต่หากชีวิตมีความสุขเบิกบานใจ เครื่องประดับบนหัวก็จะใช้สีทอง ซึ่งทรงผมและเสื้อผ้า หรือแม้แต่เครื่องใช้บนเวที ล้วนอิงมาจากราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่มักจะเสริมแต่งความลงไปเล็กน้อย

Comments

Popular posts from this blog

《鬼谷子》กุ่ยกู๋จื่อ 12 บท (1)

บทบาทของตัวละครในการแสดงงิ้ว

งิ้วหรืออุปรากรจีนคืออะไร