Posts

Showing posts from October, 2009

งิ้วและการเข้าสู่เมืองไทย

สำหรับเมืองไทยนั้นมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกว่าคนไทยเรารู้จัก “งิ้ว” มาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนกลางนั่นคือ บันทึกรายวันของบาทหลวง บาทหลวงเดอ ชัวสี ตาซารต์ ทูตพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในคราวที่ติดตามมองซิเออร์ เลอ เชอวาเลีย เดอโชมองต์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2228 (ค.ศ. 1685) เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยใน สมัยพระนารายณ์มหาราช และบันทึกของลาลูแบร์ทูตชาวฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2230 หรือราว 319 ปี ก็ชื่นชมการแสดงงิ้วดังกล่าวด้วย และเรียกการแสดงชนิดนี้ว่า “Comedie a la chinoife” และ “A Chinefe Comedy” ซึ่งมีความหมายโดยรวมว่า “ละครจีน” ในสมัยกรุงศรีอยุธยาไม่มีบันทึกหลักฐานใดๆที่บ่งบอกถึงที่มาของชื่อ..งิ้ว..ไว้อย่างแน่ชัด จนกระทั่งมาถึงในสมัยของพระเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งเป็นยุคที่มีชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทยมากขึ้น ได้เรียกชื่อของการแสดงนี้ว่า...งิ้ว...ดังนั้นชื่อของ...งิ้วจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ากรุงธนบุรี ดังในหลักฐานเมื่อครั้งที่พระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดฯให้จัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ เพื่ออัญเชิญพระแก้วมรกตซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่1 เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกท...

สีสันบนใบหน้าและผม

Image
ความโดดเด่นของการแสดงงิ้วนั้น นอกจากลีลาการร่ายรำและการเคลื่อนไหวของผู้แสดงแล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตลอดจนการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่นสีสันของการแต่งหน้าที่แตกต่างกันไป จะบ่งบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครได้ส่วนสีสันของการแต่งหน้าที่ต่างกันจะบ่งบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครเป็นอย่างดีโดยสีต่างๆนั้นจะมีความหมายแฝงอยู่ เช่น สีแดง แสดงถึงความจงรักภักดี สีม่วง แสดงถึงความเป็นคนหนักแน่น มีใจเด็ดเดี่ยว สีดำ แสดงถึงความเป็นคนป่าเถื่อน สีน้ำเงินและสีเขียว แสดงถึงความเป็นคนใจร้าย มุทะลุ สีเหลือง แสดงถึงความกล้าหาญ แน่วแน่ สีขาว มันแสดงถึงความเป็นคนเจ้าเล่ห์ สีชมพูขาว แสดงถึงความเป็นคนใจอำมหิตและชั่วร้ายมาก สีอิฐหรือแดงเข้ม แสดงถึงผู้สูงอายุ สีทองและสีเงิน มักเป็นสีที่ใช้แต่งหน้าเทพ นักพรตหรือปีศาจที่มีเวทมนตร์คาถา สีเขียวอ่อน ใช้แต่งหน้าพวกตัวปีศาจ ขั้นตอนการแต่งหน้า การแต่งหน้า ก่อนอื่นต้องลงสีขาวและกดหน้าให้เป็นแผ่นราบ หลังจากนั้นจึงดึงคิ้ว จมูก ปากขึ้นมาใบหน้าที่จะแต่งงิ้วได้สวยนั้น ต้องเป็น “หน้ารูปไข่” เพราะจะสามารถเห็นตรงส่วนเรียวข...

บทบาทของตัวละครในการแสดงงิ้ว

Image
บทบาทของผู้แสดงงิ้วมี 4-6 บทบาท คือ 1. เซิง(生) เป็นบทบาทการแสดงของผู้ชาย ที่ผู้แสดงจะต้องฝึก 3 ชนิดด้วยกันคือ - เล่าเซิง(老生) พระเอกบุ๋น คือตัวละครชายที่แสดงบทบาทเป็นชายวัยกลางคนจนถึงคนแก่ อาจติดหนวดเครา สีหนวดเคราแสดงถึงอายุที่มากขึ้นตามลำดับ คือ ดำ เทา และ ขาว เน้นหนักที่การร้องเป็นหลัก - เซี่ยวเซิง(小生) แสดงเป็นชายหนุ่ม พระเอกของเรื่อง ไม่ติดหนวดเครา แสดงถึงวัยเริ่มแตกเนื้อหนุ่มแต่ยังไม่มีหนวดเครารุงรัง ท่าทางสุภาพอ่อนน้อม เวลาร้องจะมีเสียงรัวเพื่อแสดงว่าเป็นคนหนุ่ม - อู่เซิง(武生) พระเอกบู๊ คือตัวละครชายที่รับบทนักรบหรือผู้มีวิทยายุทธ์ เน้นที่บทบาทการต่อสู้ เป็นพวกแสดงท่าทางโลดโผนหรือกายกรรม หกคะเมนตีลังกา เช่นพวกแสดงเป็นลิง เฮ่งเจีย เป็นต้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ บู๊แบบชุดรบ (มีธง) กับบู๊ทั่วไป - หง เซิง(红生) หมายถึง พระเอกที่มีใบหน้าสีแดง คือ บทกวนอู - หว่า หวา เซิง (娃娃生)หมายถึง พระเอกเด็ก คือ บทนาจา 2. ตั้น(旦) เป็นบทบาทการแสดงของผู้หญิง ซึ่งมี ๖ บทด้วยกันคือ - เหล่าตั้น (老旦) แสดงเป็นผู้หญิงมีอายุหรือหญิงแก่ มีทั้งบทบู๊และบุ๋น โดยแบ่งไปตามลักษณะบ...

ประวัติความเป็นมาของงิ้วหรืออุปรากรจีน

Image
เริ่มต้นสมัยราชวงศ์ซ้อง(ค.ศ. 1179-1276) ทางภาคใต้ของจีนมีคณะงิ้วที่มีชื่อได้เปิดการแสดงที่มีบทพูดเป็นโคลงกลอนสลับการร้อง ใช้วงเครื่องดีดสีตีเป่าประกอบการแสดง ในยุคนั้นยังไม่มีรูปแบบในการแสดงที่ชัดเจน ใช้ผู้แสดงแค่ไม่กี่คน จึงมีการแสดงเป็นเรื่องสั้นๆเพียงเท่านั้น ทางภาคเหนือนั้น ราวช่วงต้นศตวรรษที่ 13 พวกชนเผ่ามองโกสร้างรูปแบบของงิ้วขึ้นมาเรียกว่า "ซาจู" โดยมักแบ่งการแสดงออกเป็น 4 องค์ โดยตัวละครเอกเท่านั้น ที่จะมีบทร้องเป็นทำนองเดียวตลอดเรื่อง ส่วนตัวประกอบอื่นอาศัยการพูดประกอบขณะที่อุปรากรฝ่ายเหนือเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางชั้นสูง ทางใต้นั้นผู้คนนิยมดูงิ้วที่มีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้าน ในศตวรรษที่ 16 บ้านเมืองเข้าสู่ความสงบ ผู้คนเริ่มมีฐานะและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้วงการวรรณกรรมเฟื่องฟูไปด้วย ซึ่งส่งผลทำให้บทร้องอุปราการสละสลวยยิ่งขึ้น โดยนายเหว่ย เหลียงฟุ (1522-1573) นำนิยายพื้นบ้านดังๆเรียกว่า "คุนฉู" มาเขียนเป็นบทร้อง มีสไตล์การร้องที่อ่อนหวาน ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้นส่วนใหญ่คือกลองและขลุ่ยไม้ วิวัฒนาการของงิ้ว ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและมาเจริญรุ่งเร...

งิ้วหรืออุปรากรจีนคืออะไร

Image
งิ้ว หรือ อุปรากรจีน (戏曲) เป็นการแสดงที่ผสมผสานการขับร้องและการเจรจาประกอบกับลีลาท่าทางของนักแสดงให้ออกเป็นเรื่องราว โดยสมัยนั้นได้นำเอาเหตุการณ์ต่างๆ ในพงศาวดารและประวัติศาสตร์มาดัดแปลงเป็นบทแสดง รวมทั้งยังมีการนำเอาความเชื่อทางประเพณีและศาสนาเข้าไปผสมผสานกับการแสดงงิ้วด้วย เดิมประเทศจีนมีงิ้วราว 300 กว่าประเภท ส่วนใหญ่จะเป็นงิ้วท้องถิ่น ส่วนงิ้วระดับประเทศ เช่น งิ้วปักกิ่ง, งิ้วเส้าซิง, งิ้วเหอหนันและงิ้วกวางตุ้งโดยงิ้วปักกิ่ง เป็นงิ้วที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ปัจจุบันงิ้วได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโก และยกระดับงิ้วให้เป็น ‘มรดกโลก’ ประเภทของงิ้วที่แสดงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ งิ้วหลวงกับ งิ้วท้องถิ่น - งิ้วหลวงคือ งิ้วประจำชาติของประเทศจีน มีวิวัฒนาการมาจากงิ้ว ที่เคยจัดแสดงในราชสำนักของจีนเรียกกันว่า จิงจวี่(京剧)หรือ กั๋วจวี้(国剧) ซึ่งจะเป็นงิ้วที่มีมาตรฐาน และเน้นความถูกต้องในศิลปะการแสดงของตัวละครทุกๆตัว ไม่ว่าจะเป็นลีลาการร่ายรำ ท่วงทำนอง เสียงดนตรีประกอบเรื่อยไปจนถึงการแต่งกายและการแต่งหน้าของตัวละคร ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวนี้เองที่เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแต่งกาย วัฒนธรร...