ความฝันเสมือนจริง




ผมทำความคุ้นเคยกับผู้ป่วยหญิงคนนี้มาหลายครั้งกว่าจะได้นั่งพูดคุยกันอย่างจริงจัง ด้วยความที่เธอใช้ชีวิตอยู่บนความหวาดกลัวตลอดเวลา เธอไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว แฟน เพื่อน หมอหรือนักจิตวิทยา 

ซึ่งความหวาดกลัวของเธอนั้นมาจากความฝันของเธอเอง

เนื่องจากเธออยู่ในที่ปลอดภัยมาก ไม่มีอะไรมาทำอันตรายเธอได้ (ผลจากการเฝ้าสังเกตด้วยตนเองซ้ำไปซ้ำมา ผมไม่เชื่อรายงานการสังเกตการณ์ของคนอื่น เรื่องใดก็ตามที่มีผลต่อความปลอดภัยของตนเอง ผมว่าการสังเกตการณ์เองน่าจะดีกว่า) ดังนั้นครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นปากกาอัดเสียง กระดาษจดบันทึก หรือดินสออะไรก็ตามผมพกไปครบทั้งหมด

ผม: "เมื่อวานคุณฝันหรือเปล่า"

เธอ: "ฉันไม่ได้นอน"

สีหน้าของเธอไม่ใช่สีหน้าของความอ่อนล้า แต่เป็นความซีดเซียวอันเกิดจากการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและการนอนหลับที่ไม่เพียงพอมาเป็นระยะเวลานาน รวมไปถึงความวิตกจริตที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นของโรคฮิสทีเรีย

ผม: "กลัวการฝันเหรอ" ผมรู้สึกว่าตนเองคิดผิดที่มาในวันนี้ จึงตัดสินใจถามอย่างระมัดระวัง

เธอ: "อื้ม"

ผม: "เมื่อวันก่อนล่ะ ได้หลับไหม"

เธอ: "หลับ"

ผม: "หลับสบายไหม"

เธอ: "ไม่สบาย"

ผม: "ฝันเหรอ"

เธอ: "อื้ม"

ผม: "บอกผมได้ไหมว่าฝันเห็นอะไร"

เธอ: "ยังคงเป็นเรื่องพวกนั้น"

ครั้งแรกที่ผมได้ฟังความฝันที่เธอบรรยายนั้น ผมยอมรับว่าตนเองรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย เพราะเธอจำความฝันส่วนใหญ่ของตัวเองตั้งแต่เล็กจนโตได้ และจากที่เธอเล่าความฝันเหล่านั้นล้วนเป็นความฝันแบบต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าการดำเนินชีวิตในความฝันของเธอนั้นเหมือนกับชีวิตจริง คือหมุนไปตามเวลาและเชื่อมโยงด้วยความสัมพันธ์แบบเหตุและผล แรกสุดปัญหาของเธอคือมักจะคิดว่าเรื่องในฝันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ภายหลังเธอถึงค่อยๆ ยอมรับชีวิตของ "โลกสองใบ" ซึ่งก็คือชีวิตในโลกความจริงและโลกความฝัน ส่วนปัญหาในตอนนี้ค่อนข้างหนัก เพราะความฝันของเธอน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นฝันแบบต่อเนื่อง ลองนึกถึงภาพซีรี่ย์สยองขวัญที่ไม่มีวันฉายจบดูสิ

ผม: "คุณรู้ว่าผมมาเพื่อช่วยคุณ คุณเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนล่าสุดนี้ให้ผมฟังหน่อยได้ไหม" ผมหมายถึงในความฝันของเธอ

เธอกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้า

ผม: "โอเค งั้นเริ่มกันเลย"

เธอ: "ยังจำบุรุษเงาได้ไหม ฉันพบว่าเขาไม่ได้มาช่วยฉัน"

ประโยคนี้ทำให้ผมประหลาดใจมาก นอกเหนือจากผู้ป่วยแล้วบุรุษเงาคือบุคคลเดียวที่ปรากฏตัวในฝันร้ายของเธอ เสื้อผ้าที่สวมใส่และรูปร่างลักษณะนั้นไม่ชัดเจน มักจะปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์ที่เลือนลาง บุรุษเงาผู้นี้ยังมักจะช่วยชีวิตเธออยู่บ่อยครั้ง แรกเริ่มนั้นผมนึกว่าบุรุษเงาคือที่พึ่งทางอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้ป่วยสร้างขึ้นเพื่อรองรับความชื่นชมที่มีต่อชายคนหนึ่งในชีวิตจริง แต่หลังจากผ่านการสะกดจิตโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่หลายครั้ง ผมจึงพบว่ามันไม่ใช่แบบนั้น สำหรับเธอแล้วบุรุษเงาคือบุคคลที่มีตัวตนอยู่ในฝันของเธอจริง ๆ

ผม: "บุรุษเงา......ไม่ใช่คนที่ช่วยคุณไว้เหรอ"

เธอ: "ไม่ใช่"

ผม: "ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

เธอ: "เขาเริ่มลากฉันไปกระโดดตึก"

ผมค่อยๆ โล่งอก: "เพื่อช่วยคุณหนีใช่หรือเปล่า ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอ"

เธอ: "ไม่ใช่ ฉันรู้วัตถุประสงค์ของเขาแล้ว"

ผม: "วัตถุประสงค์อะไร"

เธอ: "เขาต้องการให้ฉันกับเขาตายด้วยกัน"

ผมพยายามควบคุมปฎิกิริยาของตนเอง และย้ำประโยคสุดท้ายของเธอซ้ำ: "ตายด้วยกันงั้นเหรอ"

เธอ: "ใช่"
ผมไม่ถามต่อ แต่รอให้เธอเล่า

เธอ: "ฉันเคยเล่าให้คุณฟังแล้ว เมื่อหนึ่งปีก่อนนั้นเขาลากฉันไปกระโดดตึก และทุกครั้งฉันจะตื่นขึ้นในขณะที่เพิ่งกระโดด แต่ปีที่ผ่านมานี้ฉันตื่นช้าลงเรื่อย ๆ

ผม: "คุณหมายความว่า......"

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้งราวกับกำลังรวบรวมความกล้า: "ทุกครั้งเขาจะลากฉันไปกระโดดที่ตึกเดิม ช่วงแรกฉันไม่ทันสังเกต ฉันเพิ่งมาค้นพบเอาภายหลัง เพราะภายในห้อง ๆ หนึ่งของชั้น ๆ หนึ่งในตึกนั้นมีโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เนื่องจากช่วงแรกสุดนั้นฉันจะตื่นขึ้นในขณะที่เพิ่งจะกระโดด แต่ช่วงหลังมานี้ ทุกครั้งที่กระโดดฉันจะตื่นขึ้นในชั้นที่ต่ำกว่าครั้งก่อนหลายชั้น"

ผม: "คุณหมายความว่า เมื่อคุณสังเกตเห็นโคมไฟระย้านั้นคุณถึงสะดุดใจว่าตื่นช้าลงหลายชั้นและอยู่ในตึกเดียวกันอย่างนั้นเหรอ"

เธอ: "อื้ม"

ผม: "แล้วยังคงเป็นตึก 40 กว่าชั้นนั่นเหรอ"

เธอ: "ทุกครั้ง"

ผม: "ห้องที่มีโคมไฟระย้านั่นอยู่ชั้นไหน"

เธอ: "35"

ผม: "ทุกครั้งจะมองเห็นหน้าต่างบานนั้นเหรอ"

เธอ: "ไม่ใช่หน้าต่าง ตำแหน่งที่กระโดดในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน แต่ห้องของตึกนั้นมีหน้าต่างหลายบาน ฉะนั้นหลังจากนั้นทุกครั้งที่กระโดดในตำแหน่งใหม่ ฉันจะค่อยสังเกตชั้น 35 และฉันจะเห็นโคมไฟระย้ายักษ์นั่นจากมุมที่แตกต่างกัน"

ผม: "ตอนนี้ตื่นที่ชั้นไหน"

เธอ: ใกล้จะถึงครึ่งตึกแล้ว"

ผม: "............"

เธอ: "ฉันเริ่มเห็นพื้นใกล้ฉันขึ้นเรื่อย ๆ เขาดึงมือฉันไว้และหัวเราะอยู่ข้างหูฉัน"

ผมเริ่มรู้สึกนั่งไม่ติดเก้าอี้: "ไม่ใช่ทุกครั้งที่ฝันว่ากระโดดตึกหรอกใช่ไหม"

เธอ: "ไม่ใช่"

ผม: "แล้วเขายังช่วยคุณอีกไหม"

เธอมองผมด้วยความหวาดกลัว: "เขาเป็นตัวประหลาด เขาจำได้ทุกเส้นทาง ทุกประตู ทุกทางเข้าออก ขอแค่เขาดึงมือฉันไว้ ก็จะไม่มีทางปล่อยมือฉันอีก ทำได้แต่วิ่งตามเขา ร้องก็ไม่ออก พูดก็ไม่ได้ ได้แต่วิ่งตามเขา วิ่งไปจนถึงดาดฟ้าของตึกนั้น"

หากไม่ใช่เพราะเคยสำรวจผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอมาก่อน หากไม่ใช่เพราะเคยผ่านการสะกดจิตมาหลายครั้ง ผมก็แทบจะเชื่อว่าในชีวิตจริงเธอเคยถูกผู้ชายข่มเหงมาก่อน ถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องมันก็จะง่ายขึ้น บอกตามตรงผมอยากให้เรื่องมันง่ายแบบนั้นเสียจริง จริง ๆ นะ

ผม: "ตอนนี้คุณก็ยังเห็นภาพบุรุษเงาไม่ชัดเหรอ"

เธอ: "ชั่วขณะที่กระโดด เห็นชัดนิดหน่อย"

ผมกำลังครุ่นคิดว่ารอบตัวมีคนรู้จักที่เป็นนักสเก็ตช์ภาพผู้ร้ายอย่างในสำนักงานตำรวจหรือเปล่า

ผม: "เขามีรูปร่างหน้าตายังไง"

เธอตอบกลับมาด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอีกครั้ง: "นั่นไม่ใช่ใบหน้าของคน...ไม่ใช่หน้าของคน...ไม่ใช่......"

ผมรู้ว่าท่าทางไม่ดี อาการเธอกำลังจะกำเริบ: "คุณดื่มน้ำก่อนไหม"

เธอมองผมนิ่งอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะตั้งสติได้: "ไม่ล่ะ"

หลังจากการพูดคุยครั้งนั้นไม่นานเธอก็เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง โรงพยาบาลมีการเฝ้าสังเกตการนอนหลับของเธอเป็นพิเศษ ในรายงานนั้นค่อนข้างประหลาด:การนอนหลับของเธอนั้นส่วนใหญ่เป็นการนอนหลับที่ไร้ความฝัน ช่วงเวลาที่ฝันจริง ๆ ไม่เกิน 2 นาที ในขณะที่เธอฝันร่างกายมีอาการกระตุก ผิวกายมีเหงื่อออก อุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูง จากนั้นก็จะตื่นขึ้น และเป็นการสะดุ้งตื่นทุกครั้ง

ครั้งสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับเธอนั้น ผมก็ได้ถามถึงใบหน้าของคน ๆ นั้นจนได้

เธอพยายามสะกดกลั้นความหวาดกลัวและบอกกับผมว่า: ใบหน้าของบุรุษเงาเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย ๆ ราวกับใบหน้าของคนมากมายสับเปลี่ยนกันปรากฏอยู่บนหน้าเดียวอย่างรวดเร็ว


-- 

Comments

Popular posts from this blog

《鬼谷子》กุ่ยกู๋จื่อ 12 บท (1)

บทบาทของตัวละครในการแสดงงิ้ว

งิ้วหรืออุปรากรจีนคืออะไร